น้ำท่วม “ทางหลวง” 16 สายทาง อุตรดิตถ์หนักสุด ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง

เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง (ทล.) แจ้งว่า จากสถานการณ์ร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบนในช่วงตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนัก ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทล. สั่งการให้สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด และได้มีการจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง 

นอกจากนี้เมื่อเวลา 16.00 น. ในวันเดียวกัน ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย พบทางหลวงถูกน้ำท่วมในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ จ.อุบลราชธานี,ขอนแก่น,หนองบัวลำภู,มหาสารคาม,กาฬสินธุ์,ยโสธร,อุตรดิตถ์,แพร่ และเชียงใหม่ จำนวน 16 สายทาง 23 แห่ง การจราจรผ่านไม่ได้ 4 แห่ง ใน จ.อุตรดิตถ์ ดังนี้

1.ทางหลวงหมายเลข 1083 พื้นที่ อ.บ้านโคก สาย ห้วยน้อยกา-เด่นชาติ ช่วง กม.ที่ 1+500-กม.ที่ 1+725 ระดับน้ำ 60 ซมคำพูดจาก สล็อตทรูวอเลท. เส้นทางเลี่ยงให้ใช้ทางหลวงหมาเลข 117 ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 1083 ที่ กม.11+073 2.ทางหลวงหมายเลข 117 พื้นที่ อ.ฟากท่า สายน้ำปาด-นาไพร ช่วง กม.ที่ 369+400-369+800 ระดับน้ำ 90 ซม. เส้นทางเลี่ยงให้ใช้ทางหลวงหมาเลข 117 ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 117 ที่ กม.370+350 3.ทางหลวงหมายเลข 117 พื้นที่ อ.ฟากท่า สาย น้ำปาด-นาไพร ช่วง กม.ที่ 368+175-368+900 ระดับน้ำ 110 ซม. เส้นทางเลี่ยงให้ใช้ทางหลวงหมาเลข 117 ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 117 ที่ กม.370+350 และ 4.ทางหลวงหมายเลข 117 พื้นที่ อ.ฟากท่า สาย น้ำปาด-นาไพร ช่วง กม.ที่ 367+800-367+900 ระดับน้ำ 30 ซมคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. เส้นทางเลี่ยงให้ใช้ทางหลวงหมาเลข 117 ไปบรรจบทางหลวงหมายเลข 117 ที่ กม.370+350 โดย

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเดินทางด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามป้ายเตือนน้ำท่วม ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเผ้าระวังสถานการณ์ตลอดเวลา หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือ สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฯ ฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ www.doh.go.th หรือ ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1